สารบาญหน้า
1. โปรais 200บาท
2. สมัครโปรเน็ต AIS วันทูคอล ไม่ลดสปิด
3. สมัครโปรเน็ต AIS วันทูคอล เน็ตเต็มสปิด
4. สมัครโปรเน็ต AIS วันทูคอล 5G
5. สมัครโปรเน็ต AIS วันทูคอล ทั้งเน็ตทั้งยังโทรฟรี
โปรais 200บาทโปรais 200บาท ภายหลังที่ ท้ายปีก่อน มีโปรแรงๆอย่าง AIS True dtac 10Mbps ไม่ลดสปีด โดยมีแพ็กเกจ 10Mbps 200 บาท และ 4Mbps 150 บาท ซึ่ง 2 โปรนี้ได้รับความนิยมมากมายๆโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 200 บาท ได้เน็ต 10Mbps ไม่ยั้ง แต่ว่าช่วงก็ผ่านไปเร็วทันใจ 12 เดือน หรือครบ 1 ปี ครบ 12 รอบใช้งาน ก็ถึงเวลาที่ผู้ใช้เสนอคำถามว่า จะได้ต่อโปรไหม
โดยมี Invent, SEAC, Humanica , Conicle , NEO Academy by CMMU, Beyond Training, Doctor A to Z ร่วมเป็นผู้ช่วยเหลือส่งต่อองค์วิชาความรู้ไปยังคนประเทศไทย โปรais 200บาท ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านเครือข่ายเทคโนโลยี เติมเต็มเนื้อหา แล้วก็หลักสูตรต่างๆให้ตอบโจทย์ความชำนาญความอยากใหม่ๆที่ครบบริบรูณ์นางสาวกานติเตียนมา กล่าวเสริมว่า
“LearnDi by AIS Academy มีสาเหตุจากการพัฒนาข้างในหน่วยงานสำหรับเพื่อการทำ Transformation ทำให้เราทราบดีว่าบุคลากรปรารถนาอะไร ผู้ประกอบการและจากนั้นก็องค์กรมุ่งมาดปรารถนาอะไร ทำให้การใช้แรงงานตอบโจทย์ความมากมาย โดยทำงานร่วมกับผู้ส่งเสริมในแวดวงยึดหลักการเจริญเติบโตด้วยกันใช้จุดแข่งขันของแต่ละผู้ส่งเสริมทำให้
LearnDi เป็นเหมือนกับ Hub ด้านองค์วิชาความรู้รวมทั้งความชำนิชำนาญใหม่ๆไม่ว่าจะเป็นด้าน Soft skill และ Hard skill ที่สามารถช่วยให้การแก้ไขบุคลากร และก็ตอบปัญหาคนรุ่นใหม่ที่ปรารถนาแก้ไขตัวเองโดยตลอดเพื่อการกำหนดเส้นทางการสำเร็จของตนเองผ่านการทำ
Self-Development ของหน่วยงาน เปิดโอกาสให้พนักงานได้เข้าถึงองค์ความรู้ได้อย่างเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม มีความใกล้เคียงเหมาะสมกับพนักงานในทุกระดับ บนราคาที่จับจำต้องได้”นอกเหนือจากการมีผู้ช่วยเหลือชั้นแนวหน้าทั้งยังในแล้วก็ฝรั่งที่มาด้วยกันเสริมความสามารถแล้ว อีกหนึ่งจุดแข็งของ
LearnDi คือการทำงานร่วมกับแผนกจิตวิทยา จุฬาลงมือณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาแบบวัดประสิทธิภาพส่วนตัวสำหรับคนไทย (Self-Competency Assessment) รวมทั้งแบบทดสอบวัดความสามารถเฉพาะตัวด้านดิจิทัล (Self-Digital Competency Assessment) เพื่อทำให้เด็กนักเรียนเข้าใจคุณภาพตัวเองก่อนการพรีเซนเทชั่นหลักสูตรที่สมควร โปรais 200บาท ในที่สุดเมื่อจบการศึกษาก็จะได้รับ E-Certificateที่เป็นตัวชี้วัดการบรรลุจุดประสงค์ของการหาความรู้รูปแบบใหม่สำหรับจุดหมายปลายทางของ AIS Academy เป็นการสนับสนุนองค์วิชาความรู้ผ่านความรู้ความเข้าใจของเทคโนโลยี แล้วก็องค์วิชาความรู้จากผู้ส่งเสริม ทั้งข้างใน รวมทั้งต่างประเทศ ออกสู่สังคมไทย โดย บริษัท เลิร์นดิ จำกัด โดยเน้นย้ำการเสริมสร้างช่วยเหลือการเลื่อนฐานะระดับความสามารถของคนภายในองค์กร สนับสนุนแนวทางการทำการเปลี่ยนผ่านของหน่วยงาน (Organization Transformation) โดยสิ่งของการพัฒนาพนักงานการเรียน เพื่อสร้างจังหวะให้กับกรุ๊ปธุรกิจหน่วยงาน ผู้ประกอบการ SMEs ข้างทรัพยากรบุคคล รวมถึงคนธรรมดาทั่วไป
มีความรู้และความเข้าใจ รวมถึงความพร้อมเพรียงกันภายใต้กระแสความเคลื่อนที่มีอย่างไม่หยุดยั้งนางสาวกานต่อว่ามา กล่าวตบท้ายว่า “ผู้ช่วยเหลือทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกันที่จะใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อช่วยเหลือเจือจานกันพัฒนา “EdTech Ecosystem” ให้แกร่งเยอะขึ้นด้วยเหตุว่าพวกเราเชื่อเสมอว่าการเติบโตแต่เพียงผู้เดียว ไม่ใช่การเจริญเติบโตอย่างแท้จริงและจีรังยั่งยืน การให้ผู้ที่ได้การสนับสนุนทุกส่วนเติบโตไปด้วยกัน พร้อมเพียงกัน เป็นข้อดีที่จะก่อให้เกิด Ecosystem ที่แท้จริง และจะช่วยให้สังคมอดทนแล้วก็สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน”เอไอเอส ผสานมือ วิศวะมหิดล ศึกษาวิจัยปรับแต่งนวัตกรรมต้นแบบหุ่นยนต์ “UVC Moving CoBot” หุ่นยนต์แขนมายากลเคลื่อนอัจฉริยะ สร้างพื้นที่ปราศจากไวรัส ด้วยรังสียูวีซี ต้อนรับการเปิดประเทศให้คนประเทศไทยดำเนินชีวิตในสมัย Next Normal ได้อย่างอุ่นใจและก็ไม่มีอันตราย 1 เดือนเมษายน 2564: เอไอเอส โดย AIS Robotic Lab กลุ่มปรับปรุงหุ่นยนต์ 5G อัจฉริยะ ร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามความร่วมแรงร่วมมือ (MOA) ในการค้นคว้า ทำการศึกษาเรียนรู้ ทดสอบ ทดลอง เพื่อปรับปรุงแก้ไขของใหม่ต้นแบบจากเทคโนโลยี 5G เพื่อยกฐานะงานด้านสาธารณสุขสร้างเสริมความสามารถสำหรับการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้กับคนประเทศไทย โดยมีนวัตบาปนำร่องคือ “UVC Moving CoBot” หุ่นยนต์แขนกลอัจฉริยะทำลายเชื้อเชื้อไวรัสด้วยรังสียูวีซีแบบเคลื่อน ทำลายเชื้อเชื้อไวรัสรวมทั้งแบคทีเรียได้ถึง 99.99% นับเป็นวัสดุใหม่ช่วยธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเดินหน้าต่อด้วยมาตรฐานความปลอดภัย แล้วก็ช่วยให้คนประเทศไทยดำรงชีพในสมัย Next Normalได้อย่างอุ่นใจและก็ไม่มีอันตราย จัดการสถานการณ์ ระลอกใหม่ที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา รวมทั้งตอบรับโรดแมปการเปิดประเทศคุณอมลทิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายขับของใหม่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด มหาชน (เอไอเอส) บอกว่า “เรามีความตั้งใจจริงสำหรับในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและก็ขีดความสามารถของคณะทำงาน ร่วมมายกระดับองค์ประกอบเบื้องต้นด้านดิจิทัลของประเทศอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของวัววิด-19 ในตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา กับ “โครงการ AIS ROBOT FOR CARE” ที่ได้นำประสิทธิภาพของเครือข่าย 5G, AI, Cloud และก็ Robotic มาดัดแปลงเป็นโครงข่ายดิจิทัลพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาหุ่นยนต์ 5G เพื่อช่วยกระทำการด้านการแพทย์ วันนี้ เอไอเอส
จึงภูมิใจอย่างยิ่งที่กลุ่ม AIS Robotic Lab ได้ร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ โปรais 200บาท มัธยมมหิดล ศึกษาค้นคว้าปรับแต่ง UVC Moving CoBot ระบบหุ่นยนต์แขนกลอัจฉริยะทำลายเชื้อด้วยรังสียูวีซีแบบเขยื้อน ที่นับว่าเป็นต้นแบบหุ่นยนต์อัจฉริยะ ที่จะปรับปรุงเชิงพาณิชย์ในขั้นถัดไปโดยมีลักษณะเด่นของ UVC Moving Cobotเป็นแขนกลสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ก็เลยสามารถชำระล้างโต๊ะ ตู้ เตียง ชั้นที่เอาไว้วางสินค้า แล้วก็ฆ่าเชื้อโรคเชื้อไวรัสแล้วก็แบคทีเรียได้อย่างทั่วถึง ซึ่งมีความปลอดภัยอย่างมากมาย และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์ ในเวลาเดียวกันนี้ยังได้ด้วยกันปรับปรุงฟีพบร์อัจฉริยะ อย่างเทคโนโลยี Virtual Mapping ที่ช่วยกำหนดแผนที่ทางเดินของหุ่นยนต์ให้เคลื่อนเข้าหาวัตถุหรือสถานที่ได้อย่างรวดเร็วแล้วก็แม่น และยังสามารถบังคับหุ่นยนต์เขยื้อนได้ตามประสงค์ ผ่านโครงข่าย 5G ทำให้หุ่นยนต์สามารถปฏิบัติการแทนมนุษย์ได้อัตโนมัติ ตลอด 1 วัน ลดภาระงานหนักแล้วก็ลดการเสี่ยงต่ออันตรายจากรังสี UV-C แล้วก็ลดการได้รับเชื้อได้อย่างมีคุณภาพซึ่งนับว่าเป็นของใหม่ต้นแบบที่จะแก้ไขไปเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ในอนาคต เพื่อสังคมและเศรษฐกิจไทย ช่วยทำให้ผู้ประกอบกิจการ เอสเอ็มอีไทย แล้วก็คนประเทศไทยสามารถใช้ของใหม่ในราคาประหยัด ลดการนำเข้าสร้างความปลอดภัยสำหรับการดำเนินธุรกิจรวมทั้งชีวิตประจำวัน นำมาซึ่งการก่อให้เกิดความยั่งยืนและมั่นคงทางสุขภาพรวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศนอกจากนี้ ยังนับว่าเป็นเป็นการบ่มเพาะพนักงานด้าน Digital แล้วก็ Robotic ซึ่งจะเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญสำหรับการขับเมืองไทยไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย”
ดร.เอกชัย วารินศรีรักษ์ หัวหน้าทีมทำการศึกษาและหัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมด้านที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สำหรับ UVC Moving CoBot ระบบหุ่นยนต์ทำลายเชื้อด้วยรังสียูวีซีแบบเคลื่อนที่ มีส่วนประกอบหลัก 4 อย่าง ซึ่งทำงานร่วมกัน เป็นแหล่งเกิดรังสียูวีซี ขนาดกำลังขั้นต่ำ 16 วัตต์ ขนาดหลอดยาว 25 – 35 ซม. ตั้งขึ้นบนปลายแขนของหุ่นยนต์แขนมายากลหุ่นยนต์แขนมายากลอัจฉริยะซึ่งแขนด้านหนึ่งของหุ่นยนต์ตั้งขึ้นต้นตอรังสียูวีซี แล้วก็แขนอีกด้านหนึ่งเป็นฐานของหุ่นยนต์ ตั้งขึ้นเข้ากับ AGV รถยนต์นำทางอัตโนมัติ สามารถครอบคลุมการฉายรังสีในระยะ 65 – 75 ตารางเซนติเมตร ขยับเขยื้อนได้เรื่องเร็วต่ำสุด 2 ซม./5 นาที รวมถึงความเร็วสูงสุด 110 ซม./นาทีชูโหลดน้ำหนักวัตถุได้ 5 กิโลกรัมรถยนต์นำทางอัตโนมัติ (Automated Guide Vehicle: AGV) สามารถเขยื้อนไปตามทางที่มีแถบแม่เหล็กกำหนดไว้ ตัวรถมีความเร็วสำหรับการเดินทางไม่ต่ำกว่า 8 เมตร/นาที สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 500 กิโลกรัม ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เป็นระบบขับระบบเครื่องจักรเห็น
(Machine Vision) ปฏิบัติหน้าที่ค้นหาเครื่องหมายเพื่อให้คะแนนคุณลักษณะของวัตถุด้านในพื้นที่ โดยระบบจะจำวัตถุและก็สั่งการเคลื่อนที่จากที่บันทึกไว้หรืออ่านคำบัญชาด้วยรหัสบาร์โค้ด เชื้อไวรัส COVID-19 แล้วก็เชื้อโรคอีกหลายชนิด เว้นแต่ระบาดโดยการแพร่ไปในละอองฝอยอากาศแล้วยังอาจกระจายเชื้อไวรัสรวมทั้งเชื้อต่างๆสู่ผิวของอุปกรณ์รวมทั้งเครื่องใช้ต่างๆได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น โรงหมอ ห้าง ซูเปอร์มาเก็ต โรงหนัง ที่ทำการ อื่นๆอีกมากมาย ในทางวิทยาศาสตร์ด้านการแพทย์เป็นที่ยอมรับว่า การใช้รังสี UV-C ที่มีความยาวคลื่น 200-280 นาโนเมตรสามารถทำลายเชื้อไวรัสรวมทั้งแบคทีเรียที่อยู่บนผิวต่างๆได้ ปัจจัยที่จะทำให้การฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีซีได้เต็มสมรรถนะอย่างแท้จริงนั้น ขึ้นกับการออกแบบทางวิศวกรรม ตัวอย่างเช่น
1.ค่าความเข้มของหลอด (Power Density)
2.ระยะห่างของผิวที่อยากฉายเพื่อทำลายเชื้อ (Distance) แล้วหลังจากนั้นก็
3.ระยะเวลาของการฉายรังสี (Time) โดยเฉพาะการฆ่าเชื้อนั้นจำเป็นจะต้องนำแสงสว่างรังสีใกล้กับตัวผิวที่อยากทำลายเชื้อให้มากที่สุด แล้วก็จำเป็นจะต้องทำให้ครอบคลุมทั่วถึงผิวทั้งหมดด้วย (ระยะห่าง ขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์ ตามหลักวิศวกรรม)”
รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พูดว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในยุโรปได้ไปสู่การระบาดระลอกที่ 3 แล้วมีอัตราการรับเชื้อเยอะที่สุดนับจากเดือน โปรais 200บาท ก.พ. หลายประเทศได้ประกาศขยายล็อคดาวน์อีกรอบหนึ่ง สำหรับเมืองไทยก็มีการเจอคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อโรคเป็นระยะ แม้ว่าวัคซีนโควิดจะเริ่มนำเข้ามาฉีดให้สามัญชนแล้ว เรายังจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับวัววิดต่อไป ก็เลยเป็นต้นเหตุของการพัฒนาต้นแบบของใหม่
UVC Moving CoBot ระบบหุ่นยนต์ทำลายเชื้อด้วยรังสียูวีซีแบบเขยื้อน โดยทีมวิจัยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แล้วก็เป็นที่น่าชอบใจลำดับที่สององค์กรเป็น คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รวมทั้ง เอไอเอส ได้ผนึกพลังสมรรถนะของหัวหน้าสาขาวิชาการและก็หัวหน้าด้านเทคโนโลยีรวมทั้งบริการดิจิทัล ชั้น 1 ของไทยในการพัฒนาจากต้นแบบของใหม่ไปสู่สินค้าที่มีสมรรถนะในอนาคต เพื่อคุณประโยชน์ต่อคนประเทศไทยรวมทั้งเศรษฐกิจไทยโดยรวม มุ่งตอบปัญหาทำยังไงจึงจะสร้างพื้นที่ไม่มีเชื้อโรคไวรัสที่มีคุณภาพสูง ทำลายเชื้อเชื้อไวรัสและเชื้อโรคได้อย่างมั่นใจและก็ทั่วถึง ตลอดจนจัดการอัตโนมัติแทนมนุษย์ได้ 24 ชม.เพื่อคนไทยต่อกรกับ Next Normal แล้วก็โควิด-19 ระลอกใหม่ที่บางทีอาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้” ทั้งจัดแจงเปิดประเทศ รับนักเที่ยวโดยรัฐบาลมี โรดแมปเปิดประเทศไทย จะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 2 (เม.ย. – ไม่.ย. 2564) เปิดรับผู้เดินทางต่างชาติ ที่ได้รับวัคซีนแล้ว เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก เช่นจังหวัดภูเก็ต กระบี่ จังหวัดพังงา เกาะสมุย พัทยา แล้วก็จังหวัดเชียงใหม่ โดยจำเป็นต้องกักตัวในรีสอร์ทเป็นเวลา 7 วัน , ไตรมาส 3 (กรกฎาคม – ก.ย. 2564) นำร่องที่ จังหวัดภูเก็ต จะไม่มีการกักตัว ผู้เดินทางต่างประเทศที่ได้รับวัคซีนครบโดส สามารถบินตรงเข้าท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต และตรวจเชื้อเมื่อเดินทางมาถึงโดยไม่ต้องกักตัวรวมทั้งจึงควรอยู่ใน จังหวัดภูเก็ตอย่างต่ำ 7 วัน ก่อนเริ่มเดินทางไปที่อื่นๆรวมทั้งใช้วิธีการป้องกันพร้อมกับ Vaccine Certificate และก็แอปพลิเคชั่นติดตามตัว , ส่วนไตรมาส 4 (เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2564) เพิ่มพื้นที่นำร่อง กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และก็จังหวัดเชียงใหม่, คาดว่ามกราคม 2565 จะสามารถเปิดประเทศไทยได้ทั่วประเทศพอใจสินค้า ais คลิ๊ก
เครดิต : https://www.ais2pro.com/โปรais-200บาท/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น